ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2560 ได้มีโอกาสไปเที่ยวเมืองเลย แต่สถานทีท่องเที่ยวยอดนิยม อย่างภูเรือ ภูกระดึง เชียงคาน ผู้คนคงแน่นขนัดซึ่งเราไม่มีความถนัดในการแก่งแย่งแข่งขันในช่วงเทศกาลอย่างนี้ และก็เคยไปมาหมดแล้ว พอดีนึกขึ้นได้ว่าเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้วมีคุณครูท่านหนึ่งเอารูปมาโชว์ว่าท่านได้ไปคุนหมิงมาแล้วซึ่งสวยงามมากอยู่ใกล้ๆนี่เอง คุนหมิงเมืองไทย และท่านยังไปฟูจิมาด้วย และก็บอกว่ามันอยู่ใกล้ๆกันนั่นหละ ห่างกันประมาณ 3-4 กิโลเมตร ฟูจิเมืองเลย อีกเหมือนกัน นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ไป แล้วจะรออะไรไปกันเลย
เมืองเลย ไทเลย
ความเป็นมาของคนเลยและจังหวัดเลย ประวัติศาสตร์เล่าว่า เมืองเลยเกิดจากการอพยพมาตั้งถิ่นฐานของชาวโยนกนคร ในครั้งที่อาณาจักรโยนกได้ล่มสลาย พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง ได้พาผู้คนจากอาณาจักรโยนกนคร อพยพผ่านมาทางเมืองล้านช้าง โดยพ่อขุนผาเมืองอพยพข้ามลำน้ำเหืองไปทางฝั่งขวาของลำน้ำหมัน และตั้งเป็นชุมชนชนขึ้นมาเรียก “บ้านด่านขวา” ส่วนพ่อขุนบางกลางหาวได้ อพยพผู้คนข้ามลําน้ำหมันไปทางฝั่งซ้ายสร้างบ้านด่านซ้ายขึ้น จากนั้นได้อพยพขึ้นไปตามลําน้ำ และได้สร้างบ้านหนองคูขึ้น พร้อมกับนําชื่อหมู่บ้านด่านซ้าย มาขนานนามหมู่บ้านหนองคูใหม่เป็น “เป็นเมืองด่านซ้าย” ต่อมาก็มีชาวโยนกนครอพยพมาจากทางด้านใต้ของอาณาจักรล้านช้าง ข้ามน้ำเหืองมาตั้งเมืองเซไลขึ้น ในช่วงสมัยเจ้าเมืองเซไลคนที่ 5 ได้เกิดโรคระบาดจึงพากันอพยพตามน้ำเซไล มาตั้งอยู่ที่ห้วยน้ำหมานติดกับปากน้ำเลย ชื่อว่าบ้านห้วยหมาน ต่อมาอีกนานเลยในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 ปี พ.ศ. 2396 ทรงโปรดให้จัดตั้งหมู่บ้านริมน้ำหมานและปากน้ำเลยขึ้นเป็น “เมืองเลย”
มหัศจรรย์ธรรมชาติ คุนหมิงเมืองไทย ใกล้แค่นี้ทำไมจะไม่ไป
คุนหมิงเมืองไทย ชื่อเป็นทางการคือสวนหินผางาม ตั้งอยู่ที่บ้าน ผางาม หมู่ 10 ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย ลักษณะของสถานที่ท่องเที่ยวนี้เป็นภูเขาหินปูนแสดงภูมิประเทศแบบ Krast เป็นแท่งหินตะปุ่มตะปั่ม ยอดแหลม สูง และมีโพรงและถ้ำ อยู่มากมาย ลักษณะของเขามีรูปร่างแตกต่างไปขึ้นอยูกับจินตนาการ และบนเส้นทางท่องเที่ยวชมธรรมชาติก็จะมีชื่อเรียกไปต่างๆ เช่น หินไดโนเสาร์ หน้าผาท้อแท้ ซุ้มคารวะ ถ้ำอรทัย เขาวงกต เจดีย์หิน กรอบรูปธรรมชาติ กำแพงเมืองจีน ประตูโขง หินมงกุฎ สวนหิน ซุ้มนรก รูรันตู อันสุดท้ายทำเอางง ถามได้ความว่ามันคือ รูตัน มัคคุเทศน์ที่นี่เขายังมีอารมณ์ขันอีกด้วยนะ บอกว่าให้หยุดชมกล้วยไม้ เราก็หาตั้งนานมันไม่เห็นกล้วยไม้แม้แต่ต้นเดียว ก็เลยถามว่า “มันอยู่หม่องใดหล่า?” ไม่มีคำตอบแต่ชี้ไปที่ต้นกล้วยป่าและต้นไม้
การไปเที่ยวคุนหมิง ให้ซื้อตั๋วที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสวนผางาม กลุ่มละ 100 บาท ไม่เกิน 7 ท่านต่อหนึ่งกลุ่ม จากนั้นท่านมีทางเลือกสองทางคือหนึ่งทางเลือกที่เราอยากแนะนำคือเดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งไม่ไกลและไม่ถึงกับเหนื่อย แต่จะได้เห็นสภาพภูมิประเทศและธรรมชาติพืชพรรณต่างๆ ผจญภัยมุดถ้ำ ลอดอุโมงค์ และยังมีจุดศึกษาซากบรรพชีวินด้วย (Fossil) และไปจุดสุดท้ายซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมจุดถ่ายภาพ โดยมีภูมิประเทศเป็นคุนหมิงชัดๆ สวยงามตระการตา ขึ้นไปแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ซึมซาบเอาความบริสุทธิ์ของอากาศและวิวทิวทัศน์อันสวยงาม แบบใกล้ชิด มองแล้วหายเหนื่อยเลย บนเส้นทางนี้ทางจะค่อยๆลาดชันขึ้นไปทำให้ไม่เหนื่อย และเราหยุดพักศึกษาธรรมชาติรายทางไปเรื่อยๆ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ขากลับใครจะเดินกลับทางเก่าก็ได้ แต่แนะนำให้เดินลงไปที่จุดจอดรถอีแต๊กจ่ายค่าโดยสารคนละ 15 บาทเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแก่ท้องถิ่น รถอีแต๊กจะพาท่านกลับไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวโดยสวัสดิภาพ อีกทางเลือกหนึ่งหลังจากเราซื้อตั๋วเข้าชมบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้วก็ขึ้นรถอีแต๊กไปราคาคนละ 15 บาทรถอีแต๊กจะพาท่านไปสู่จุดชมวิว อันสุดท้ายเลย ท่านไม่จำเป็นต้องเดินไกล แต่ท่านต้องปีนป่ายบันไดเหล็กขึ้นไปที่จุดชมวิว บันไดนี้ค่อนข้างชันทำให้ท่านต้องออกแรงมากและเหนื่อยได้ ที่สำคัญการเลือกใช้เส้นทางนี้จะไม่เห็นความมหัศจรรย์ธรรมชาติของป่าหินปูน เห็นแต่บันไดเหล็ก
วิชาการเสียนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เลี่ยนเกินไป คุนหมิงเมืองไทย เป็นภูเขาหินปูนที่มีรูปร่างแปลกตา และมีลักษณะเป็น แท่ง หนามแหลม อันเนื่องจากการกัดเซาะของน้ำฝน ภูเขาคุนหมิงนี้ประกอบไปด้วยหินปูน สีเทา สีเทาอ่อนเป็นส่วนมาก ในเนื้อหินพบซากดึกดําบรรพ์ของสัตว์ทะเลจํานวนมาก เช่น แบรคิโอพอด ฟิวซูลินิด และพลับพลึงโบราณ บ่งบอกถึงสภาพการสะสมตัวของคุนหมิงเมืองไทยนี้เกิดขึ้นในทะเลเขตร้อน กรมทรัพยากรธรณีจัดให้อยู่ในหมวดหินน้ำมโหราฬ ในกลุ่มหินสระบุรี อายุประมาณช่วงยุคเพอร์เมียนตอนล่าง (ประมาณ 286-258 ล้านปีก่อน)
ขอแถมอีกนิด ในบริเวณคุนหมิงเมืองไทยเลยเข้าไปอีก 4 กิโลเมตร จากจุดบริการนักท่องเที่ยว จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกอันหนึ่งคือน้ำตกเพียงดิน เป็นน้ำตกชั้นเดียว สูงประมาณ 15 เมตร ผาน้ำตกกว้างประมาณ 10 เมตร หน้าผาน้ำตกถูกเคลือบด้วยหินปูนน้ำจืด (Tufa) สวยงามแปลกตา
ไปดูภูเขาฟูจิ ที่ภูป่าเปาะ
หลังจากเราดื่มด่ำกับธรรมชาติแสนสวยและมหัศจรรย์ของคุนหมิงเมืองไทยแล้ว อีกสถานที่หนึ่งที่เราไม่ควรพลาด ถ้าคุณพลาดคุณต้องกลับมาใหม่ ออกจากคุณหมิงให้เลี้ยวซ้ายตามถนนหมายเลข 3029 ไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร จะถึงบ้านผาหวาย หมู่ที่ 3 ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย อันเป็นที่ตั้งของภูป่าเปาะ ซึ่งภูป่าเปาะนี้ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าภูค้อ-ภูกระแต เรามาที่ภูป่าเปาะ ไม่ใช่ด้วยเหตุว่าภูป่าเปาะเหมือนภูเขาไฟภูจิ แต่ภูป่าเปาะเป็นจุดชมวิวที่จะเห็นภูเขาฟูจิ มองไกลไปถึงญี่ปุ่นโน่น ใครจะเชื่อ? ต้องมาพิสูจน์กัน ภูป่าเปาะ เป็นภูเขาหินทราย ตามแผนที่ของกรมทรัพยากรธรณี ระบุว่าเป็นหินทรายหมวดหินน้ำพอง มีความสูงบนยอดสุดที่ 900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทางท้องถิ่นผู้ดูแลจัดสถานที่ให้ชมวิวไว้ 3 จุด บางคนว่ามี 4 จุดแต่ผมว่ามี 3 คือจุดที่ 1 และ 2 คล้ายๆกัน มองเห็นภูเขาฟูจิ ได้ชัดเจน สวยงาม จุดสุดท้ายบนยอดภูเปาะ เป็นการมองวิว 360 องศา สามารถมองเห็นรอบทิศทาง ภูเขาอะไรดังๆแถบนั้นมองเห็นหมด เช่น ภูหลวงทางด้านเหนือ ภูกระดึงทางด้านใต้ แนะนำให้ไปตอนฟ้าเปิด จะเห็นวิวได้ไกลสุดลูกตา
การเข้าชม ฟูจิเมืองเลย ทางชาวบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้าน บ้านผาหวาย ได้ริเริ่มและจัดให้ภูเปาะเป็นจุดชมวิว และแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอหนองหิน ทำการตกแต่งและบริหารจัดการสถานที่ให้เกิดความสวยงาม และสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นไปยังจุดชมวิว โดยชาวบ้านจะจัดรถไถนาพ่วงที่นั่งสำหรับบริการนักท่องเที่ยวคันละประมาณ 7 ที่นั่งเก็บค่าบริการคนละ 60 บาทไปกลับ มีรถส่งทุกจุดชมวิว แต่จุดชมวิว 360 องศาจะต้องลงเดินขึ้นเนินไปเล็กน้อย ไม่ทราบว่าจะอธิบายความสวยงามอย่างไรได้ ถ่ายรูปมาให้ชมก็ฝีมืออยู่ประมาณนี้ ดังนั้นแนะนำเลยครับไปสัมผัสด้วยตัวเองใกล้แค่นี้ในราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง มันคุ้มค่าตั้งแต่ได้นั่งรถอีแต๊กขึ้นบนยอดเขาแล้ว ตื่นเต้นตอนรถอีแต๊กจอดเปลี่ยนเกียร์บนเนิน แต่ท่านไม่ต้องกลัวรถไถนามีพลังพาท่านไปได้แน่นอนเหลือๆ และสภาพพื้นที่เส้นทางสวยงาม ถ้าใครไปช่วงฤดูหนาวจะเห็นดอกบัวตองอยู่ข้างทางตลอดทั้งเส้นทางเลย ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ไปแล้วมีความสุข
ฟูจิเมืองเลย ชื่อเป็นทางการคือภูหอ ตั้งอยู่ที่ตำบลภูหอ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย ภูหอเป็นภูเขายอดราบ ที่มีพื้นที่ราบบนยอดเขาขนาดเล็ก บนยอดราบกว้างประมาณ 200 เมตรยาว 600 เมตร มีฐานเป็นทรงกลมกว้าง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 ถึง 7 กิโลเมตร บนยอดสูงสุดมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,120 เมตร เมื่อเรามองแนวราบจากทางทิศตะวันออกจะเห็นรูปทรงของภูหอคล้ายสัณฐานของภูเขาไฟ ซึ่งทำให้เรามองจากภูป่าเปาะเห็นภูหอคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิยามา ซึ่งเราหาได้มองไปถึงญี่ปุ่นไม่ ตามแผนที่ธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณี ภูหอ ประกอบขึ้นด้วยหินทรายกลุ่มหินโคราช ในหมวดหินภูกระดึง หมวดหินพระวิหาร และหมวดหินเสาขรัว เรียงลำดับจากล่างขึ้นบน
ตำนานรักของนางผมหอมและภูหอ
มีเรื่องเล่าว่า เดิมทีภูมิสัณฐานของภูหอไม่ได้เป็นแบบนี้แต่คงเหมือนภูเขาทั่วไป เรื่องนี้มันผูกพันไปถึงเรื่องราวของความรักระหว่างคนและช้าง เป็นตำนานรักนางผมหอม นางผมหอมเป็นลูกสาวของพญาช้างที่เกิดกับชาวบ้านธรรมดา เมื่อนางผมหอมเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นน่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนักที่ผมของนางมีความหอมมาก นางจึงได้ชื่อว่าผมหอม นางผมหอมเมื่อครั้งยังเด็กก็
อาศัยอยู่กับแม่ที่เป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ต่อมาเมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นหญิงสาว ก็รู้สึกว่าอยากจะพบพ่อ จึงได้ออกเดินทางเข้าไปในป่าเพื่อจะสืบหาพ่อของตนเอง อยู่มาวันหนึ่งจึงได้ไปพบกับพญาช้างเข้า นางผมหอมเมื่อพบกับพญาช้างก็เล่าเรื่องราวความจริงให้ฟัง พญาช้างได้ฟังดังนั้นจึงเสี่ยงจิตอธิษฐานไปว่าถ้านางเป็นลูกของข้าขอให้ปีนขึ้นสู่หลังของข้าได้ (พญาช้างเป็นช้างที่ตัวสูงใหญ่และงายาวกว่าช้างปกติ) แต่นางผมหอมก็สามารถขึ้นขี่หลังพญาช้างได้ พญาช้างจึงยอมรับเป็นลูกและอ้อนวอนขอให้นางผมหอมไปอยู่ด้วยที่บนภูหอ นางผมหอมเติบใหญ่อยู่กับพญาช้าง แต่นางก็ยังปราถนาจะมีคู่ครองจึงได้เอาผมของนางใส่ผอบ และอธิษฐานเรื่องคู่ครอง ปล่อยผอบลอยตามน้ำไป บังเอิญหรือเรื่องของบุพเพสันนิวาสผอบนั้นลอยไปยังเมืองเซไล และก็เป็นช่วงที่ท้าววรจิต ลูกชายของเจ้าฟ้าฮ่าม เจ้าเมืองเซไล ลงมาอาบน้ำและพบผอบนางผมหอมจึงเปิดดู และอฐิษฐานกลับไปถ้านางเป็นเนื้อคู่ของข้าให้ผอบนี้ลอยทวนน้ำขึ้นไป อัศจรรย์ยิ่งนักผอบนั้นลอยตามน้ำขึ้นไป เห็นดังนั้นท้าววรจิตจังดั้นด้นตามหารัก โดยเดินทางทวนน้ำขึ้นมาจนมาได้มาพบกับนางผมหอม ทั้งคู่ตกลงใจไปครองรักครองเรือนที่เมืองเซไลอันเป็นบ้านเมืองของท้าววรจิต เมื่อพญาช้างรู้ข่าวจึงได้เสียใจและโกรธมากจึงบรรดาลโทสะใช้งางัดเอาภูหอขาดวิ่น จนเราเห็นสภาพของภูหอเป็นดังในปัจจุบัน นางผมหอมเมื่อรู้ว่าพ่อโกรธและเสียใจมาก จึงได้กลับมายังภูหอเพื่อขอขมาพญาช้าง ส่วนพญาช้างนั่นเล่าก็ย่อมต้องให้อภัยลูกเสมอ แต่มีข้อแม้ให้พาหลานกลับมาเยี่ยมในบริเวณที่พญาช้างตาย
ที่พักและที่กิน
ทั้งบริเวณคุนหมิง และภูป่าเปาะ มีที่พักหลากหลายให้เลือก ส่วนมากจะเป็นรีสอร์ทของชาวบ้านแถบนั้น ผมเลือกพักที่ ศิลามณีคุนหมิงวิว เป็นที่พักแบบรีสอร์ทของชาวบ้านแถบนั้นร่วมแรงร่วมทุนกันทำ ซึ่งทำเลที่พักอยู่ติดกับคุนหมิงทำให้มองเห็นวิวคุนหมิงได้ชัดเจน และเรายังสามารถเดินไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จะไปเที่ยวก็จอดรถไว้ที่รีสอร์ทแล้วก็เดินไปได้เลย จากจุดนี้ยังไปสถานที่เที่ยวอื่นๆได้อย่างสะดวกสบาย เจ้าของอัธยาศัยดี ที่พักสะอาด วิวสวย มีอาหารเช้าด้วย ติดต่อที่พักได้ที่เบอร์โทรนี้ 089-2765707 หรือท่านใดต้องการรีสอร์ทอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงก็มี ม่านเมฆ ทะเลหมอก ที่ดูไฮโซราคาแพงขึ้นมาอีกและอยู่ลึกเข้าไปอีกนิดนึง แต่ก็เงียบสงบดี หรือในจังหวัดเลยก็สามารถค้นหาได้ตามนี้เลย ที่พัก
ร้านอาหารในบริเวณจุดบริการนักท่องเที่ยวมีเยอะมากไม่รู้จะเลือกกินร้านไหน แต่คนท้องที่แนะนำมาว่า ร้านป้านงค์ขนมจีนบีบเส้นสดๆอร่อยมาก และส้มตำก็แซบถึงใจ ไม่เชื่อคนท้องถิ่นแล้วจะเชื่อใคร ร้านป้านงค์ อยู่เป็นร้านต้นๆปากทางเข้าคุนหมิง เข้ามาอยู่ทางซ้ายมือ ร้านแกคนไม่มาก ไม่ต้องแย่งและรอนาน มีทั้งไก่ย่างและปลาเผา แต่เราไม่กินเพราะเจ้าถิ่นบอกว่าขนมจีนบีบสดอร่อย และส้มตำก็ชั้นเลิศ ก็เลยลองอันนี้หละ ขนมจีนเส้นสดบีบตรงนั้นเลยจัดใส่จานมา ขนาดกินสองคนอิ่ม พร้อมน้ำยาสองชนิดคือน้ำยาแกงไก่กับน้ำยาปลาใส่ปลาร้าด้วย ผลการกินพบว่าอร่อยมากสมคำร่ำลือจริงๆ ส่วนส้มตำสั่งเป็นตำลาวแบบเผ็ดๆ แซบจนหุบปากไม่ลงเลย ทำไมไม่สั่งตำด้องแด้งก็ไม่รู้ เลยไม่รู้ตำด้องแด้งมันเป็นยังไง สนนราคาถูกเหมือนให้เปล่า
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ เดินทางไปทางเส้นทางไปนครราชสีมาผ่านสระบุรีไปตามถนนมิตรภาพ ไปจนถึงยกระดับสีคิ้วเลี้ยวซ้ายไปทางชัยภูมิ ตามถนนหมายเลข 201 ผ่านชัยภูมิเข้าสู่อำเภอชุมแพจังหวัดขอนแก่น ช่วงนี้เส้นทางหมายเลข 201 จะร่วมกับถนนมะลิวัลย์ระยะสั้นๆ จากนั้นให้เลี้ยวไปตามเส้นทางหมายเลข 201 เช่นเดิม คือเส้นทางไปยังจังหวัดเลย เดินทางเรื่อยๆมาผ่าน ผานกเค้า ผ่านอำเภอภูกระดึงมาจนมาถึง อำเภอหนองหิน ให้เบี่ยงออกซ้ายเข้าทางคู่ขนาน เลี้ยวซ้ายตรงร้านขายของชำ ร้านรัตนา ไปตามเส้นทางหมายเลข 3029 ไปอีก 19 กิโลเมตรก็จะถึงคุนหมิงเมืองไทย โปรดทราบเส้นทางนี้จะขึ้นเขาเล็กน้อย ความชันที่ประมาณ 8% โปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
[google_map_easy id=”17″]