“สะพานไม้ ด่านเจดีย์ นทีสามประสบ มรดกทุ่งใหญ่ ไทยกะเหรี่ยงรามัญ สารพันธรรมชาติ อภิวาทหลวงพ่ออุตตมะ เมืองสังขละชายแดน สุดแคว้นแดนตะวันตก”
สังขละบุรี นทีสามประสบ เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีชายแดนติดต่อกับชายแดนพม่า เดิมชื่อเมืองท่าขนุน ต่อมาเปลี่ยนเป็นวังกะ และก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้งจนสุดท้ายเป็นสังขละบุรี จากประวัติศาสตร์ไทยรบพม่าที่สอนกันในในโรงเรียน พม่ามักจะยกกองทัพเข้าตี อโยธยา โดยผ่านเส้นทางนี้เป็นประจำ ซึ่งอาจเพราะภูมิประเทศบริเวณนี้เป็นช่องเขาเหมาะแก่การเดินทัพ

ด่านเจดีย์สามองค์
เดิมทีบริเวณนี้ชาวบ้านได้นำหินมากองไว้สามกองเพื่อสักการะบูชา และเป็นการบอกแนวเนตด้วย ต่อมาเจ้าเมืองท่าขนุนได้นำพาชาวบ้านสร้างเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยม ด้านบนเป็นทรงกลม ขนาดค่อนข้างเล็กสีขาวเรียงกัน 3 องค์ หน้าตาเจดีย์เหมือนเจดีย์ที่พบเห็นในพม่าทั่วไป บริเวณด่านเจดีย์สามองค์นี้ เมื่อขับรถเข้ามาก็จะมีคนโบกรถเข้าไปให้จอดทั้งฝั่งซ้ายและขวา จอดฟรีครับ พร้อมกันนั้นจะมีการเสนอนำเที่ยวประเทศพม่า โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ เมืองพญาตองซู ซึ่งเป็นเมืองติดกับชายแดนและมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น วัดเสาร้อยต้น วัดเจดีย์ทอง แล้วก็ตลาด ในราคาย่อมเยาว์ ปลอดภัย การข้ามแดนก็ง่ายสะดวกสบาย ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรให้ยุ่งยากแค่บัตรประชาชนใบเดียวก็ไปได้แล้ว ซึ่งเป็นการผ่านแดนชั่วคราวไปได้ใกล้ๆ ชายแดนฝั่งนี้ไม่ค่อยคึกคักเท่าไร การค้าขายมีไม่มาก ไม่ค่อยเห็นรถขนสินค้าไปด่านเจดีย์สามองค์ ถ้าเราไม่ข้ามไปฝั่งเมืองพญาตองซู ที่พม่า ก็สามารถเดินซื้อของ เดินชมประวัติศาสตร์ เพื่อที่จะได้จินตนาการ เส้นทางเดินทัพของพม่า เส้นทางรถไฟของ ญี่ปุ่น แต่ก็ไม่มีอะไรให้เห็นนะ ต้องจินตนาการเอาเอง
สะพานมอญ ชื่อทางการ สะพานอุตตมานุสรณ์
จุดเด่นของเมืองสังขละบุรีที่ผู้คนรู้จักกันก็น่าจะเป็น สะพานมอญ ชื่อทางการ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียเชื่อมระหว่างตัวอำเภอสังขละบุรีกับชุมชนมอญ สะพานนี้สร้างในช่วงปี พ.ศ. 2529-2530 โดยการริเริ่มของหลวงพ่ออุตตะมะ และการร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน สะพานนี้เดิมยาว 850 เมตร แต่สะพานที่เห็นวันนี้เพิ่งจะเสร็จจากการซ่อมใหญ่หลังจากถูกสายน้ำตัดขาดไป ในบริเวณใกล้กันนั้นยังคงเห็นสะพานแพลูกบวบที่สร้างใช้ชั่วคราวอยู่ สะพานลูกบวบที่สร้างขึ้นมานี้เป็นการรวมตัวกันสร้างของชาวบ้านเองซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยิ่งนัก การเที่ยวชมสะพานมอญนี้ ควรไปตอนเช้าๆ ประมาณ 6 ถึง 7 โมงเช้าจะดี

วัดวังก์วิเวการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตมะ
หลวงพ่อเป็นชาวมอญ ชื่่อเดิม เอหม่อง เป็นคนบ้านโมกกะเนียง อำเภอเย จังหวัดเมาะลำเลิง ประเทศ พม่า เข้ามาอยู่เมืองไทยถาวรเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองในพม่า ช่วงแรกท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดในแถบ อำเภอโพธาราม ราชบุรี ต่อมาได้ทราบข่าวว่ามีชาวมอญบ้านเดียวกับท่านได้อพยพเข้ามาอยู่เมืองไทย ท่านจึงไปพบปะและนำชาวมอญเหล่านี้ไปอยู่ที่บ้านวังกะล่าง ต่อมาได้ร่วมกับชาวมอญและกะเหรี่ยงสร้างวัดขึ้นบนบริเวณที่เนินในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ หมายถึงบริเวณที่แม่น้ำสามสายไหลมาบรรจบกัน คือ ซองกาเรีย บีคลี่ และรันตี ต่อมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้สร้างเขื่อนเขาแหลมขึ้นมาทำให้เกิดน้ำท่วม ก็เลยพากันโยกย้ายมาอยู่ในที่ปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวคือวัดเก่าจมน้ำซึ่งในบริเวณนั้น มีวัดจมน้ำอยู่สามวัดคือ วัดเก่า ของหลวงพ่ออุตตะมะ