ในโลกนี้ไม่มีสุสานใดเทียบกับ ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ได้หรอก ใครไปอินเดียอย่างน้อยก็สักครั้งหนึ่งในชีวิตก็ควรต้องได้ไปเห็นทัชมาฮาล ไม่ว่าจะเป็นคนมีความรัก ไม่มีความรัก อกหัก หรือ สมหวัง ก็ตาม
ในเดลลีก็มีอนุสรณ์แห่งรักคล้ายกันที่เชื่อกันว่าเป็นต้นแบบของทัสมาฮาลนั่นคือ สุสานฮูมายูน (Humayun) จักรพรรดิ์แห่งราชวงศ์โมกุล สถาปัตยกรรมและแผนผังเหมือนกันไม่มีผิด
ฮูมายุนนั้นได้ชื่อว่าเป็นจักรพรรดิ์ที่ปราดเปรื่องในหลายเรื่องโดยเฉพาะศาสนาอิสลาม แต่เสียอยู่อย่างคือติดฝิ่น (ก็เหมือนกับมหาราชา มหารานีของอินเดียทั่วไป) วันหนึ่งฮูมายุนเชิญแขกมางานพิธีทางศาสนาอะไรสักอย่าง พระองค์เสด็จออกท้องพระโรงระหว่างที่มีเสียงเรียกอาซานเตรียมพิธีละหมาดต่อหน้าแขกเหรื่อมากมาย ฮูมายุนในชุดคลุมยาวถึงเท้า เดินสะดุดเครื่องแต่งตายตัวเองล้มหัวฟาดบันใดอาการโคม่าอยู่เป็นเดือนก่อนจะตายตั้งแต่ยังหนุ่มแน่นอายุเพียง 42 ปี มหารานีสะเทือนใจต่อความสูญเสียจึงได้สร้างสุสานที่ยิ่งใหญ่นี้ให้แก่พระองค์ในศตวรรษที่ 16 ในขณะที่ทัชมาฮาลนั้นสร้างในศตวรรษที่ 17
คนอินเดียนั้นได้ชื่อว่าเป็นคนที่แสดงออกแห่งรักอย่างมาก ไม่เช่นนั้นประชากรคงไม่มากขนาดนี้ปัจจุบันก็เกิน 1200 ล้านเข้าไปแล้ว งานแต่งงานของคนอินเดียนั้นจัดเป็น 1 ใน 3 อย่างสำคัญของชีวิตนอกเหนือไปจาก การกินอยู่เพื่อดำรงชีพและการศึกษา งานแต่งงานในอินเดียเป็นเรื่องใหญ่ สม้ยก่อนต้องจัดกันถึง 3 วัน 3 คืน และใช้เงินมากนับเป็นเงินบาทก็หมดกันเป็นล้านหรือหลายล้านสำหรับคนฐานะดี
ปัจจุบันจึงมีธุรกิจจัดงานแต่งคนอินเดียในประเทศไทย เพราะราคาประหยัดกว่ากันมากและสามารถหาข้าวของเครื่องใช้หรือแม้แต่แขกเหรื่อสักขีพยานได้ เพราะชุมชนอินเดียในไทยนั้นมีคนตั้งครึ่งล้าน จัดได้ว่าเป็นธุรกิจที่ดี ทุกๆปีมีการจัด wedding fare ในกรุงเทพฯกันเพื่อโปรโมตธุรกิจ
ขอบคุณภาพถ่ายสวยๆจาก Dannis Jarvis