จิม ทอมป์สัน นำไหมไทยสู่แฟชั่นระดับโลก
เดือนนี้ได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านเลยถือโอกาสแวะไปเที่ยว ไร่จิมทอมป์สัน ปักธงชัย โคราช ขณะนั่งรถนำเที่ยวได้ยินพิธีกรบรรยายว่า จิม ทอมป์สัน เป็นชาวอเมริกันแต่มาหลงไหลในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอารยธรรมแบบอีสาน ลุงจิมได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยในสมัยปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อปฏิบัติภาระกิจทางทหารในช่วงนั้น หลังจากออกจากราชการทหารแล้วก็ไม่ได้กลับเมืองอเมริกาอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน ยังคงทำมาหากินอยู่ในกรุงเทพฯเมืองฟ้าเมืองสวรรค์ต่อไป แต่ลุงจิมแกเป็นคนชอบเดินทางไปโน่นไปนี่โดยเฉพาะทางอีสานนี่มาบ่อย และได้เห็นการทำผ้าไหมของชาวบ้านแลดูมีเอกลักษณ์และมีสเน่ห์ชวนหลงไหล ในสมัยนั้นอุตสาหกรรมผ้าไหมของไทยกำลังซบเซา แต่ลุงจิมก็เสาะแสวงหาจนได้ช่างทอผ้าไหมฝีมือดีแถบชุมชนบ้านครัว แล้วก็ได้ส่งเสริมให้มีการทอผ้าไหมเกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ลุงจิมแกเป็นคนมีหัวการค้าจึงเสาะแสวงหาหนทางนำผ้าไหมไทยซึ่งมีเอกลักษณ์ไปสู่สายตาชาวโลก จนในที่สุดลุงจิมก็สามารถนำผ้าไหมไทยไปลงนิตยาสารโว๊ค (Vogue) โดยอาศัยเพื่อนฝูงพาไป นับว่าเป็นครั้งสำคัญที่ผ้าไหมไทยได้ก้าวไกลสู่วงการแฟชั่นโลก และลุงจิมแกก็ตั้งบริษัทขึ้นมาค้าขายผ้าไหมโดยให้ชาวบ้านชุมชนบ้านครัวเป็นคนผลิต ตอนนั้นธุรกิจผ้าไหมก็เริ่มฟื้นตัวมาอีกครั้งหนึ่งด้วยฝีมือฝรั่งชื่อจิม ทอมป์สัน

เดินจากไปแบบไร้ร่องรอย
แต่พิธีกรก็บรรยายต่อมาอีกว่าช่วงระหว่างเดือนมีนาคม พ.ศ. 2510 ฉันยังไม่เกิดเลยแก่เอ๊ย ลุงจิมได้ไปพักผ่อนฉลองวันเกิดครบรอบ 61 ปีที่มาเลเซีย ตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม 2510 มีคนเห็นลุงจิมเดินออกจากกระท่อมที่พักและก็ไม่มีใครเห็นแกกลับมาอีกเลย จิม ทอมป์สันจากไปแล้วยังคงทิ้งมรดกล้ำค่่าเกี่ยวกับผ้าไหมไว้เบื้องหลัง และคนรุ่นหลังก็รักษาไว้และพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป ตอนนี้ก็มีไร่จิม ทอมป์สันเกิดขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งให้รำลึกถึงลุงจิมผู้จากไป
ไร่จิมทอมป์สัน ปักธงชัย
ไร่จิมทอมป์สันเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมปีละครั้งในช่วงดือนธันวาคม และปีนี้จัดขึ้นในช่วงวันที่ 5 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2559 ในหัวข้องาน “มังมูน บุญข้าว” พิธีกรบอกว่า มังมูน หมายถึงความร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ “บุญข้าว” หมายถึงงานบุญตามจารีตประเพณี 12 เดือนของอีสานที่เกี่ยวกับข้าว รวมๆกันหมายความว่า ความร่ำรวยจารีตประเพณีเกี่ยวกับข้าวของคนอีสาน ในงานยังจัดสาธิตประเพณีต่่างๆของชาวอีสานให้นักท่องเที่ยวได้ชม
ไร่จิม ทอมป์สัน ปีนี้มีจุดท่องเที่ยวต่างๆ 5 จุดคือ
จุดหยุดที่ 1 ลานฟักทองยักษ์และทุ่งดอกไม้หลากสี
จุดเด่นคือจะมีทุ่งดอกไม้หลากหลายสี เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ดอกคอสมอส ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาพญาปราบ มีลานฟักทองยักษ์อยู่ด้านหน้าทุ่งดอกไม้หลากสี พร้อมด้วยฟักทองยักษ์ทำมาจากฝักข้าวโพด บริเวณตรงกลางทุ่งดอกไม้ทาง ไร่จิม ทอมป์สัน ยังจัดให้มีที่ชมดอกไม้แบบ 360 องศา และมีการแห่บั้งไฟผ่านไปยังทุ่งดอกไม้ที่แลดูสวยสดงดงาม






จุดหยุดที่ 2 หมู่บ้านอีสาน
จุดนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการจำลองหมู่บ้านทางภาคอีสานไว้ได้อย่างสมจริง เหมือนบ้านสมัยที่เรายังเป็นเด็กๆยังไงยังั้น (หมายถึงเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว) มีทั้ง หอระฆัง หอไตร เรือนไทยญวน เรือนโคราช “เรือนนางเผอะ” ที่ได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นปี 2558 จากสามาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ในจุดนี้ยังมีการสาธิตวิถีชีวิต วัฒนธรรมของคนอีสาน บุญผะเหวด บุญข้าวจี่ บุญบั้งไฟ มีการสาธิตการสาวไหมด้วย มีร้านค้าแบบโบราณมองดูแล้วคิดถึงบ้านตัวเองในสมัยโน้นจังเลย แถมยัมีหมอลำเรื่องต่อกลอนด้วยวันที่ไปรู้สึกว่าจะลำเรื่องผาแดงนางไอ่






จุดหยุดที่ 3 หมู่บ้านจิม
เป็นจุดเรียนรู้กระบวนการผลิตผ้าไหม อันเป็นจุดเด่นของจิม ทอมป์สัน ซึ่งมีตั้งแต่การสาวไหม การฟอกย้อมเส้นไหม การพิมพ์ผ้าไหม นอกจากนี้ยังมีอุโมงค์เส้นด้ายหลากสีสันให้ถ่ายรูปอีกด้วย


จุดหยุดที่ 4 ตลาดจิมทอมป์สัน
ประกอบไปด้วยสวนแนวตั้งซิลเวอร์ฟอลและทุ่งดอกฮอลลี่ฮอค และมีตลาดสินค้าเกษตรที่เป็นผลิตภัณฑ์จากไร่จิม ทอมป์สันให้ซื้อหาได้อย่างมากมาย
จุดหยุดที่ 5 เป็นทุ่งดอกคอสมอสและแปลงผักปลอดสารพิษ
บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ตอนที่ไปยังออกดอกไม่มากเท่าที่ควร คิดว่าช่วงใกล้ๆปีใหม่คงจะบานสะพรั่งสวยงาม เหมาะสำหรับถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง ในบริเวณนี้ยังเป็นจุดแสดงนิทรรศการหมอลำเคลื่อนที่ “แคนล่องคะนองลำ”

ไร่จิม ทอมป์สัน ตั้งอยู่ที่ เชิงเขาพญาปราบ ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 25 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 600 ไร่ การเดินทางเข้าสู่ไร่จิม ทอมป์สัน จากอำเภอปักธงชัย เดินทางตามถนนหมายเลข 304 ปักธงชัย-วังน้ำเขียว เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 2072 ไปทางเขื่อนลำพระเพลิง ประมาณ 18 กิโลเมตร ดูแผนที่ประกอบด้านล่าง ไร่จิม ทอมป์สันเป็นของเอกชนดังนั้นค่าเข้าชมจึงค่อนข้างแพง วันธรรมดาผู้ใหญ่คนละ 180 บาท เด็ก 135 บาท วันเสาร์อาทิตย์ผู้ใหญ่ 220 บาท เด็ก 180 บาท ช่วงเทศกาลปีใหม่แพงเป็นพิเศษผู้ใหญ่ 280 บาท เด็ก 220 บาท สำหรับที่จอดรถมีค่อนข้างน่าจะเพียงพอเห็นโฆษณาว่ามีกว่า 3,000 คัน
[google_map_easy id=”11″]