ซานโตรินี กรีซ ความสวยทะลักจุดเดือด

 

ซานโตรินี หรือ เธียรา มีทะเลที่สวยงามและพิเศษเกินกว่าที่จะบรรยายได้ ถูกล้อมรอบไปด้วยหน้าผาสูงชันของปล่องภูเขาไฟ ที่มีสีสันสวยงาม พร้อมด้วยเมืองอันงดงามตั้งอยู่บนหน้าผา หันหน้าลงสู่ทะเล อันเป็นปากปล่องภูเขาไฟ ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรีซ ที่ใครๆเมื่อมาเยือนกรีซแล้วต้องไม่พลาดมาที่นี่

แต่ซานโตรินี เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ และเป็นศูนย์กลางของกลุ่มภูเขาไฟรูปโค้ง เฮเลน (Hellenic Volcanic Arc) ซึ่งอยู่ในทะเลอีเจียนตอนใต้   ภูเขาไฟซานโดรินี มีการประทุหลายครั้งในรอบ 2 ล้านปี และมีการประทุอย่างรุนแรงทุกรอบหมื่นปี ทำให้มีการสะสมของเถ้าถ่าน และหินภูเขาไฟหลายต่อหลายครั้ง ก่อกำเนิดเกิดเป็นหน้าผาสูงชันหลากสีสัน อันเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน นักท่องที่มาเยือนมักจะไม่พลาดการล่องเรือเข้ามาดูหน้าผาหลากสีสันนี้

การประทุครั้งรุนแรงที่สุดของภูเขาไฟ ซานโตรินี ในตอนปลายของยุคสำริด ประมาณ 1,613 ก่อนคริสตกาล เรียกการประทุครั้งนั้นว่า ไมโนน (Minoan Eruption) เป็นการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาการระเบิดของภูเขาไฟในช่วงอายุนี้ การระเบิดครั้งนั้นไมใช่แค่ทำลายล้าง ซานโตรินี แต่มันเป็นการทำลายล้างทั้งเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ ซึ่งการระเบิดครั้งนั้นทำให้มีเถ้าภูเขาไฟสีขาวสะสมตัวเป็นชั้นหนามากกว่า 10 เมตร มันเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของ ซานโตรินี ไปอย่างสิ้นเชิง เชื่อกันว่าก่อนที่จะทีการระเบิดของภูเขาไฟ เกาะซานโตรินี มีลักษณะเป็นรูปวงแหวนเกือบจะเต็มวง และมีตรงกลางค่อนข้างจะตื้น หลังการระเบิดอย่างรุนแรง วงแหวนทางต้านตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือเกิดการทรุดตัวจมหายไปในทะเล ซึ่งทำให้ปล่องภูเขาไฟขยายตัวกว้างขึ้นและจมลึกลง การประทุของภูเขาไฟครั้งนั้นทำให้ อารยะธรรมไมโนนที่เจริญรุ่งเรืองและร่ำรวยถูกทำลายไป ทั้งจากผลของการระเบิดของภูเขาไฟที่รุนแรงและตามติดด้วยการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิขนาดใหญ่ตามมากวาดล้างเอาอารยะธรรมไมโนนลงสู่ทะเล ในปี 1969 นักโบราณคดี ได้ขุดเอาอารยะธรรมไมโนน ขึ้นมาอีกครั้งหลังจากถูกฝังไปอย่างยาวนานถึง 4,000 ปี  การขุดพบครั้งนี้เป็นหลักฐานอย่างหนึ่งที่อาจสัมพันธ์กันกับอาณาจักรแอทแลนติสที่จมหายสาบสูญไป หรือมันคือกุญแจไขสู่แอทแลนติสก็เป็นได้

ซานโตรินี ดินแดนสุดแสนโรแมนติก เป็นจุดหมายปลายทางคู่รักหลายคู่ ต่างค้นหาและดั้นด้นมา ไม่เฉพาะชาวกรีกแต่เป็นดินแดนที่คนทั่วโลกอยากไปสัมผัสสถานที่อันสุดแสนโรแมนติก แวดล้อมไปด้วย ความสวยงามของ ทะเลสวยน้ำใส ภาพพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม บนเกาะที่เป็นปากปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่

สุดยอดที่ใครๆก็มาถ่ายรูป คือ เมือง Fira เป็นเมืองที่สวยงามราวภาพวาดตั้งอยู่บนหน้าผาซึ่งเป็นปากปล่องภูเขาไฟ และยังมีเมือง Oia, เมืองImerovígli เมือง Firostefáni ทั้งหมดตั้งอยู่บนหน้าผา ซึ่งมองดูแล้วเหมือนคิ้วของปล่องภูเขาไฟ หรือระเบียงที่มองไปข้างหน้าเป็นทะเล สวยงามตระกรานตา

อารยะธรรมไมโอนอันรุ่งเรือง อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ  Akrotiri และ Messa Vounó มี แหล่งโบราณคดี ที่มีชื่อเสียง คือ Pyrgos , Karterádes , EMPORIO , Ammoudi , Finikia , Perissa , Perivolos , Megalohóri , Kamári, Messaria และ Monolithos บางหมู่บ้านก็มีความทันสมัยคึกคัก บางหมู่บ้านก็ดูสงบเงียบ และล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น ที่ปลูกบนดินเถ้าถ่านภูเขาไฟ ที่กว้างใหญ่ และมีโรงไวน์ บางที่มีปราสาทตั้งอยู่บนหน้าผา ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลอีเจียน อันเป็นบรรยากาศแบบดั้งเดิม ชวนให้น่าสัมผัสและหลงไหล

หมายเหตุ : ประเทศกรีซ มีชื่อเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเฮลเลนิก Hellenic Republic เมืองหลวง คือ เอเธนส์ เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของ ทวีปยุโรป ตอนใต้สุด ของ คาบสมุทรบอลข่าน ช่วงนี้มีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากภาระหนี้สินและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลา